นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล
- หลักการและวัตถุประสงค์
บริษัท เค.พี.ที. แมชชีนเนอรี่ (1993) จำกัด (“บริษัท”) และบริษัทในเครือ ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในความเป็นส่วนตัว เพื่อให้การปฏิบัติงานของบริษัท เป็นไปตามมาตรฐานสากล ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องรับทราบและถือปฏิบัติต่อไป
- คำนิยาม
รายการ | คำอธิบาย |
ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) | หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ คำนิยามตามประราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 |
ข้อมูลอ่อนไหว | หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และมีความละเอียดอ่อนและมีความสุ่มเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม หรือเป็นข้อมูลอื่นใด ซึ่งอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล |
คณะกรรมการ (Personal Data Protection Committee) | หมายถึง คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล |
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล | หมายถึง การดำเนินการหรือชุดการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การจัดเก็บ รวบรวม การบันทึก การจัดระบบ จัดโครงสร้าง การอัปเดตหรือการแก้ไข การดึงข้อมูล การใช้ การเปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือ การกระทำใดๆ เพื่อให้พร้อมใช้งาน การใช้ การรวม การบล็อก การลบหรือการทำลายข้อมูล |
การรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล | หมายถึง การรั่วไหลหรือการละเมิดมาตรการควบคุมความมั่นคงปลอดภัยต่อข้อมูลส่วนบุคคล ทำให้เกิดความเสียหาย สูญหาย เปลี่ยนแปลง หรือเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาติ |
การลบข้อมูล (Data Deletation) | หมายถึง การทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกลบออกจากระบบและไม่อาจกู้คืนได้ โดยตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ ไม่ว่าเวลาใดๆ |
การทำข้อมูลนิรนาม | หมายถึง กระบวนการแปลงข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ |
ข้อมูลนิรนาม (Anonymized Data) | หมายถึง ข้อมูลที่ไม่สามารถใช้ระบุตัวตนของบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ |
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject) | หมายถึง บุคคลใด ๆ ที่ข้อมูลใด ๆ ทำให้สามารถระบุตัวตนนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม |
บริษัทในเครือ (Affiliated Company) | หมายถึง บริษัท หรือนิติบุคคลใด ๆ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับบริษัทมหาชนจำกัด หรือบริษัทเอกชนบริษัทใดบริษัทหนึ่งหรือหลายบริษัท ในลักษณะดังต่อไปนี้ |
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) | หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล |
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor) | หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล |
ลูกค้า (Customer) | หมายถึง บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลซึ่งใช้ผลิตภัณฑ์อยู่ในปัจจุบันและให้หมายความรวมถึงผู้ติดต่อสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์ ผู้ที่ทราบผลิตภัณฑ์ผ่านสื่อต่าง ๆ และผู้ที่รับการเสนอหรือชักชวนเผื่อให้ซื้อผลิตภัณฑ์ |
บริษัท ฯ | หมายถึง บริษัท เค.พี.ที. แมชชีนเนอรี่ (1993) จำกัด และบริษัทในเครือ |
- ขอบเขตการบังคับใช้
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีขอบเขตการบังคับใช้ครอบคลุมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่ดำเนินการโดย บริษัท เค.พี.ที. แมชชีนเนอรี่ (1993) จำกัด และบริษัทในเครือ รวมถึงบุคคลใด ๆ ซึ่งล่วงรู้ข้อมูลส่วนบุคคลอันเนื่องมาจากเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของ บริษัทจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงนโยบาย แนะแนวทางปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
- การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท เค.พี.ที. แมชชีนเนอรี่ (1993) จำกัด และบริษัทในเครือ จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยมี วัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยในการเก็บรวบรวมนั้นจะทำเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัท ฯ เท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการให้เจ้าของข้อมูล รับรู้ ให้ความยินยอมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือตามแบบวิธีการของบริษัท กรณีที่บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูล บริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยชัดแจ้งก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวจะเข้าข้อยกเว้นตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือกฎหมายอื่นกำหนดไว้
- การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท เค.พี.ที. แมชชีนเนอรี่ (1993) จำกัด และบริษัทในเครือ จะทำการเก็บรวบรวม หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของบริษัท เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง การทำสัญญา การทำธุรกรรมทางการเงิน การดำเนินกิจกรรมบริษัท การติดต่อประสานงานต่าง ๆ หรือเพื่อปรับปรุงคุณภาพการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การจัดทำฐานข้อมูล วิเคราะห์ และพัฒนากระบวนการดำเนินงานของบริษัท และเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย และ/หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินงานของบริษัท โดยบริษัทจะจัดเก็บและใช้ข้อมูลดังกล่าวตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลหรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น
บริษัทจะไม่กระทำการใด ๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูล เว้นแต่
- ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้แก่เจ้าของข้อมูลทราบ และได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
- เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
- การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปให้บุคคลใดโดยปราศจากความยินยอม และจะเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ที่ได้มีการแจ้งไว้ อย่างไรก็ดีเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของบริษัทและการให้บริการแก่เจ้าของข้อมูล บริษัทอาจมีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ให้แก่บริษัทในเครือ หรือบุคคลอื่นทั้งในและต่างประเทศ เช่น ผู้ให้บริการต่าง ๆ ที่ต้องดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ และไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัท ได้กำหนดไว้นอกจากนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย เช่น การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือการร้องขอจากหน่วยงานเอกชน หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย
- ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท เค.พี.ที. แมชชีนเนอรี่ (1993) จำกัด และบริษัทในเครือ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลา ดังต่อไปนี้
- ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดเกี่ยวกับการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ เช่น พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และประมวลรัษฎากร เป็นต้น
- ในกรณีที่กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะบริษัท จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นต่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาดังกล่าว บริษัทจะลบ ทำลาย หรือ ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคล เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
- การรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท เค.พี.ที. แมชชีนเนอรี่ (1993) จำกัด และบริษัทในเครือ จะกำหนดมาตรการต่าง ๆ รวมถึงมาตรการด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่พนักงานของบริษัท และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสนับสนุนและส่งเสริมให้พนักงานมีความรู้และตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล โดยพนักงานของบริษัท ต้องปฏิบัติตามนโยบายฯ และแนวปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่บริษัทกำหนดไว้ เพื่อให้บริษัท สามารถปฏิบัติตามนโยบายและกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
- สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิในการขอเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ความยินยอมไว้กับ บริษัท ฯ ได้ตลอดระยะเวลา อย่างไรก็ดี การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
- สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนโดยสามารถแจ้งให้ บริษัท ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงมีสิทธิขอให้ บริษัท ฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอม
- สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Data Portability)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ขอให้บริษัท ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น เมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติและขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท ฯ ส่งหรือโอนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง
- สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Erasure)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้ บริษัท ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของตนหากพบว่าไม่มีความจำเป็นที่จะเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอมแล้ว และ บริษัทไม่มีอำนาจที่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไป หรือในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและ บริษัทไม่สามารถอ้างเหตุปฏิเสธการคัดค้านนั้นได้ หรือในกรณีที่การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
- สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restriction of Processing)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ในระหว่างรอการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้ร้องขอให้แก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้ถูกต้องหรือขอให้ระงับการใช้แทนการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลหรือระหว่างการพิสูจน์ของ บริษัท ฯ เพื่อปฏิเสธการคัดค้านของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ บริษัทอ้างฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ บริษัท ฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ บริษัทเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
- สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้ บริษัทแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
- สิทธิในการร้องเรียน (Right to file a Complaint)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ บริษัทฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือประกาศที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว
- ข้อสงวนสิทธิ์
บริษัท เค.พี.ที. แมชชีนเนอรี่ (1993) จำกัด และบริษัทในเครือ ขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธคำร้องขอตามข้อ 9 ในกรณีดังต่อไปนี้
- กฎหมายกำหนดให้สามารถดำเนินการได้
- ข้อมูลส่วนบุคคลถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
- ผู้ยื่นคำร้องไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือเป็นผู้มีอำนาจในการยื่นคำร้อง ขอดังกล่าว
- คำร้องขอดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล เช่น กรณีที่ผู้ร้องขอไม่มีสิทธิตามกฎหมาย หรือไม่มีข้อมูลส่วน บุคคลนั้นอยู่ที่ บริษัท เป็นต้น
- คำร้องขอดังกล่าวเป็นคำร้องขอฟุ่มเฟือย เช่น เป็นคำร้องขอที่มีลักษณะเดียวกันหรือมีเนื้อหา เดียวกันซ้ำ ๆ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นต้น
- การปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท เค.พี.ที. แมชชีนเนอรี่ (1993) จำกัด จะปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย รวมถึงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยจะทำการประกาศแจ้งเตือนไปยังเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ
- ช่องทางการติดต่อ
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถแสดงความคิดเห็นและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงการขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล ได้ที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ดังนี้
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- บริษัท เค.พี.ที. แมชชีนเนอรี่ (1993) จำกัด
259/83 ซอยพิบูลเวศน์ ถนน สุขุมวิท 71 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา
กรุงเทพมหานคร 10110 - เว็บไซต์ https://www.kpt-machinery.com
- อีเมล์ [email protected]